ผมว่า หลายๆ คน คงค้นหาความหมายของชีวิต หรือการมีชีวิตอยู่ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยตั้งคำถามแบบนี้เหมือนกัน แต่คำตอบยังไม่โดนใจเท่าไร ผมคิดว่าคำถามพวกนี้ จริงๆ ก็มีคนหาคำตอบมาบ้างแล้ว จึงเกิดลัทธิ และศาสนาต่างๆ แต่ที่เห็นสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดร่วมกันของ หลายๆ แนวคิด นั่นคือหลักสมดุล
ในทางศาสนาพุทธ มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา หรือ ทางสายกลาง หมายถึง การไม่ยึดถือสุดทางเกินไป หรือในลัทธิเต๋า ก็มีหยินหยางที่แสดงความสมดุล หรือในทางวิทยาศาสตร์ก็มีเรื่องสมดุลต่างๆ เช่น สมดุลของแรง สมดุลทางไฟฟ้า สมดุลการหมุน
แต่ความตลกร้าย คือ ในความเป็นจริงส่ิงต่างๆ ไม่ได้อยู่แบบสมดุล โดยสมบูรณ์แบบ ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนั้น ?
อย่างเช่น เมื่ออากาศร้อน แดดออกแรง ทำให้นำ้ระเหยกลายเป็นไอ สะสมจนเป็นก้อนเมฆ พอก้อนเมฆควบแน่นจนอิ่มตัว ก็ตกลงมากลายเป็นฝน ผมว่า เรื่องนี้ คนส่วนใหญ่น่าจะเคยเห็น หรือได้ยินกัน นั่นก็คือ วัฏจักรของนำ้นั่นเอง
อันนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งในการปรับสมดุลตามธรรมชาติ เพื่อให้นำ้ที่อยู่ในสถานะต่างๆ เกิดการหมุนเวียน
ตัวอย่างต่อมา เอาใกล้ๆตัวหน่อย สัตว์เมื่อกินอาหารเข้าไป ในเวลาต่อมาก็ต้องมีการขับถ่าย สิ่งนี้ก็เป็นการปรับสมดุลเช่นกัน (มีเข้า ย่อมมีออก)
อีกตัวอย่างที่น่าจะเข้า ประเด็นเลย คือ เรื่องห่วงโซ่อาหาร ทำไมเราจึงไม่ทำลายล้างเผ่าพันธ์ุสัตว์บางชนิดที่เรารู้สึกรำคาญมันมากๆ เช่น ยุง หรือสัตว์ร้ายต่างๆ เพราะว่ามันเป็นการทำลายสมดุลของห่วงโซ่อาหาร กล่าวคือ สมมติว่าไม่มีสัตว์กินพืช พืชบริเวณนั้นก็จะรกมากจนเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา หรือสัตว์ที่กินสัตว์กินพืช มีอาหารน้อยลงทำให้ฆ่ากันเอง หรืออดตายก็ได้
ผมจึงคิดว่า เราเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสมดุล จึงเป็นส่วนหนึ่งในวัฏจักรต่างๆ ที่คอยปรับสมดุลให้กับธรรมชาติ
มนุษย์นอกจากจะอยู่ในวัฏจักรแล้ว บางทีเราก็ใช้ประโยชน์จากมันซะเอง เช่น
- การสร้างกระแสไฟฟ้า คือ การที่เรานำของสองส่ิงที่ประจุไฟฟ้าไม่เท่ากันมาเชื่อมต่อกันทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า เพื่อทั้งสองสิ่งมีประจุไฟฟ้าเท่ากัน
- การซื้อ-ขายตราสารทุน หรือหุ้นตามวัฏจักรของเศรษฐกิจ
นอกจากเรื่องตัวเราเองแล้ว การรักษาสมดุลในสังคม ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ อยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่อง
- การถ่วงดุลอำนาจทางการเมือง
- การปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อรักษาให้เศรษฐกิจไปต่อได้
- การรักษาความสัมพันธ์ คนหนึ่งแข็ง คนหนึ่งอ่อน
- การรักษาสมดุลของอารมณ์ไม่ให้อารมณ๋์เสียมากเกินไป หรือดีใจมากเกินไป
- การจัดการเวลาในการใช้ชีวิต การทำงาน การพักผ่อน การสังสรรค์ การมีสาระ
และก็อีกเยอะแยะมากมาย
จงรักษาสมดุลในทุกๆ เรื่องให้ดี เราก็จะมีชีวิตอย่างเป็นสุข